เจ้าของคำถาม
คุณ gilenfai
วันที่ 8 ก.พ. 2553 18:16
IP (112.142.102.253)
|
ภัยอันตรายเกิดขึ้นได้อย่างไร
การละเมิดสิทธิที่เป็นภัยอันตรายต่อผู้หญิงและเด็ก มีหลายกรณี เช่น การละเมิดทางเพศ การลวนลามอนาจาร การทำร้ายร่างกาย การหน่วงเหนี่ยวกักขัง การข่มขู่ด่าว่าอย่างรุนแรง เป็นต้น แต่ที่เกิดขึ้นบ่อย คือการทำร้ายร่างกายและการถูกข่มขืน โดยผู้กระทำอาจเป็นได้ทั้งคนแปลกหน้าและคนคุ้นเคย
ในสังคมที่ชายมีอำนาจเหนือหญิง ชายจะทำร้ายหญิง ถ้ารู้สึกโกรธที่อำนาจของตนถูกลดทอนลง ซึ่งสาเหตุอาจมาจากการถูกเหยียดหยามหรือโดยสถานภาพที่ต่ำต้อยกว่าก็ตาม เหยื่อการระบายความโกรธแค้นของชายจึงเป็นหญิง หรือเด็กที่อ่อนแอกว่าและไม่มีทางสู้ ซึ่งอาจเป็นผู้ที่ทำให้ชายโกรธแค้นโดยตรงหรือไม่ใช่ก็ได้
เตรียมตัวอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำร้าย?
ก. ฝึกตนเองให้มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ไม่ดูถูกหรือเหยียดหยามศักดิ์ศรีเพื่อนมนุษย์ทั้งด้วยกิริยาและวาจา
ข. มีจิตสำนึกในเรื่องความปลอดภัยอยู่เสมอ
ค. ระมัดระวังไม่ประมาท และฝึกความมีสติสม่ำเสมอทุกวัน
ง. ดูแลสุขภาพ และสมรรถนะร่างกายให้แข็งแรง และเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
จ. สนใจและติดตามปัญหาความรุนแรง และภัยอันตรายในรูปแบบต่างๆต่อสตรีและเด็ก
ฉ. ฝึกทักษะการรักษาตัวรอดโดยเรียนรู้เรื่องต่างๆเพื่อความปลอดภัย
สถานที่อย่างไรไม่น่าไว้วางใจ
ก. สถานที่เปลี่ยวห่างไกลผู้คน
ข. สถานที่ที่ไม่รู้จักและไม่เคยไป
ค. สถานที่ที่มิจฉาชีพอาศัยเป็นแหล่งประทุษร้าย เช่น
มุมตึก มุมมืด ลานจอดรถ ตึกร้าง สถานีขนส่ง
ป่าละเมาะ ทางหนีไฟ ห้องสุขาตามห้างสรรพสินค้า
ห้องสุขาตามปั๊มน้ำมัน ห้องสุขาสาธารณะทั่วไป
แหล่งบันเทิงและสถานเรงรมย์ต่างๆ ฯลฯ
เวลาไหนที่อาจเกิดอันตรายได้ง่าย?
ก. ยามวิกาล ยามค่ำคืน
ข. เช้ามืด
ค. คืนวันศุกร์ เสาร์ และในขณะฝนตก
ไม่ประมาทควรแต่งตัวอย่างไร ?
ตระหนักรู้ว่าการแต่งกายอาจนำไปสู่อันตราย หรือเป็นอุปสรรคของการหนีรอด ฉะนั้นควรเลือกสวมใส่ให้เหมาะสม และทะมัดทะแมง
การเตรียมพร้อมเมื่อเดินทาง หรืออยู่ในสถานที่ต่างๆ
เลือกใช้พาหนะเดินทางโดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
ถ้าเดินทางโดยรถโดยสาร
ก. ไม่ควรบอกคนแปลกหน้าว่าจะไปไหน
ข. ตื่นตัวและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
ค. เตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงแผนเส้นทางได้เสมอ
ง. พยายามอยู่ในบริเวณหรือนั้งใกล้คนขับ
ฉ. หากสังเกตุพบว่ามีคนติดตามหลังจากลงรถให้เดินตรงไปที่สถานที่ที่มีคนอยู่จำนวนมาก
ถ้าเดินทางด้วยรถส่วนตัว
ก. การจอดรถควรจอดในที่ที่มีแสงไฟสว่าง ที่มีรถวิ่งผ่าน ที่ใกล้ทางขึ้นลง
ข. ตรวจสอบภายในรถ และรอบๆรถ ก่อนเปิดประตูเข้าไปข้างในเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนอยู่ในรถ
ค. ปิดประตู ล็อคประตูให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง
ง. อย่ารับคนโบกรถข้างถนน หรือคนแปลกหน้าขึ้นมาบนรถ
ฉ. หลีกเลี่ยงการจอดรถข้างรถบรรทุก
ช. ไม่ควรทิ้งของมีค่าไว้ในรถ
ซ. ในกรณีนำรถเข้าซ่อม ควรให้เฉพาะกุญแจสตาร์ทรถ
ฌ. เรียนรู้เรื่องเครื่องยนต์เบื้องต้น
ญ. ควรวางแผนและศึกษาแผนที่ก่อนออกเดินทาง
ฎ. หากถูกจี้ขณะขับรถควรขับรถชนคันอื่นที่วิ่งไปทางเดียวกัน
ฏ. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ในรถ เช่น
ไฟฉาย ชุดปฐมพยาบาล แผนที่ ถังดับเพลิง
ผ้าขาวสำหรับทำสัญญาณ เครื่องมือประจำรถ
เชือกสำหรับลาก ฯลฯ
ถ้าเดินทางด้วยรถแท็กซี่
ก. ก่อนขึ้นรถถ้ารู้สึกว่าคนขับไม่น่าไว้วางใจ ควรยกเลิกทันที
ข. ก่อนขึ้นควรสังเกตชนิดของรถ ลักษณะรถ สี และจดหมายเลขข้างรถ และทะเบียนไว้
ค. ทุกครั้งที่ขึ้นรถควรจดชื่อ นามสกุล ของคนขับที่ติดอยู่ภายในรถ
ง .ตรวจสอบว่าที่ล็อคประตูรถอยู่ตรงไหน และเปิดออกอย่างไร
ฉ. ระมักระวังและดูอยู่เสมอว่ารถวิ่งในเส้นทางที่ควรจะไปหรือไม่
ช. ถ้าผิดสังเกตว่าสถานการณ์ไม่ดี แสร้งโทรศัพท์ถึงเพื่อนที่เป็นตำรวจ โดยพูดว่าขอสายตำรวจให้อ้างยศและชื่อ โดยขอนัดในเส้นทางที่รถกำลังมุ่งไป
ซ. ฉุกเฉินให้เปิดประตูรถและลงจากรถทันที
ฌ. ระลึกอยู่เสมอว่าทุกนาทีเรามีโอกาสและคอยหาโอกาสนั้น
ญ. ไม่รับเครื่องดื่มหรือของกินโดยเด็ดขาด
เมื่ออยู่ในที่สาธารณะและบนท้องถนน
ก. ถ้าสังเกตว่ามีคนติดตามอย่างมีพิรุธ อย่าเข้าตนเอง(คนร้ายจะรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน) ให้ไปหาเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ หรือสถานที่ชุมชนที่มีคนมาก และโทรเรียกตำรวจหรือมุ่งหน้าไปยังสถานีตำรวจเลย
ข. พึงระมัดระวังในการใช้ ATM ในเวลากลางคืน หรือในสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคย
ค. ไม่ควรเดินบนถนนเปลี่ยว หรือซอยเปลี่ยวคนเดียวโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
ง. บอกใครซักคนให้รู้ว่าเราจะไปไหน และเมื่อไหร่จะกลับโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางกับคนซึ่งเราไม่รู้จักดี
ฉ. ไม่ควรขนสำภาระมากเกินไป ถ้าถือของมากควรวางไว้เพื่อให้มือตัวเองวางและพร้อมป้องกันตัว
ช. ไม่ควรสวมหูฟังวิทยุ-เทป ขณะเดิน หรือวิ่งออกกำลังกาย
ซ. ไม่ควรอ่านหนังสือขณะเดิน ยืนรอรถ หรือยืนข้างถนน ถ้าหากมีคนเข้ามาถามทางควรยืนห่างอย่างน้อย 2 ก้าว และพร้อมระมัดระวังตัว
ฌ. หากบริเวณนั้นไม่น่าไว้วางใจ ควรหลีกเลี่ยงการยืนคนเดียว
ฎ. การรอรถเมลล์ถ้าหากป้ายนั้นไม่มีคนเลย ควรขึ้นรถสายอื่นไปเพื่อเปลี่ยนไปยังป้ายที่มีคนจำนวนมาก
ฏ. การส่งใครก็ตามกลับบ้าน ควรแน่ใจว่าเขาเข้าบ้านเรียบร้อยแล้วจึงออกรถ
เมื่ออยู่ในบ้าน
ก. ประตูและรอบๆบ้านควรเปิดไฟไว้เสมอ
ข. ก่อนนอนตรวจเช็คว่าประตูและหน้าต่างล็อคเรียบร้อย
ค. ไม่ใช่ชื่อจริงพร้อมนามสกุลติดหน้ากล่องไปรษณีย์หน้าบ้านหรือในเครื่องตอบรับโทรศัพท์
ง. ไม่ควรบอกในเครื่องตอบรับโทรศัพท์ว่าท่านไปสถานที่ใด
ฉ. ไม่ควรให้คนแปลกหน้ารู้ว่าเราอยู่คนเดียว
ช. ควรมีเพื่อนบ้านที่สนิทและไว้ใจได้
เมื่ออยู่ในลิฟท์
ก. หลีกเลี่ยงการขึ้นหรืออยู่ในลิฟท์สองต่อสองกับคนแปลกหน้า
ข. ให้สังเกตท่าทีของคนที่ขึ้นลิฟท์มาด้วยกัน
ค. ควรยืนบริเวณใกล้ปุ่มบังคับลิฟท์
เมื่อเผชิญเหตุร้ายควรปฏิบัติอย่างไร
การแก้ไขปัญหาอย่างมีสติ
ก. หยุดคิด และควบคุมอารมณ์ตัวเองให้มั่นคง
ข. สงบนิ่งเพื่อพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิด และสถานการณ์แวดล้อม
ค. คิดหาวิธีแก้ปัญหาหลายๆทาง
ง. คิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นจากวิธีการต่างๆเหล่านั่น
ฉ. ปฏิบัติวิธีแก้ปัญหาที่คิดว่าดีที่สุด
ถ่วงเวลา
นอกจากการแก้ปัญหาอย่างมีสติแล้วการถ่วงเวลาเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการป้องกันตัว ประวิงเวลาไม่ให้ถูกทำร้าย เพื่อรอให้คนมาพบเห็นและช่วยเหลือ มีวิธีการถ่วงเวลาที่น่าสนใจ และควรนำไปปฏิบัติ คือ
ก. การใช้คำพูดที่มิใช่คำพูดท้าทาย หรือดูถูก
ข. การโอนอ่อนผ่อนตาม หรือหลอกล่อให้ตายใจเพื่อโอกาส
ค. การใช้กลอุบายเสแสร้ง
การใช้วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องอยู่ในดุลยพินิจของเราเองว่าจะปฏิบัติอย่างไรในเหตุการณ์นั่นๆเพื่อความปลอดภัย
ทำอย่างไรถ้าถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์หรือจะถูกข่มขืน
ก. ตั้งสติรวบรวมความคิด สงบนิ่ง และคิดหาทางเลือกในการจะหลีกหนีหรือต่อต้านที่ตัวเองจะปลอดภัย
ข. พูดอย่างหนักแน่นว่า ไม่ โดยไม่ต้องเกรงใจ
ค. พูดว่า หยุดนะ นี่จะข่มขืนฉันเหรอ ซึ่งอาจทำให้ผู้ชายที่รู้จักคุ้นเคยกันหยุดชะงัก
ง. มองหาหนทางหนี
ฉ. หนีจากสถานการณ์อย่างรวดเร็วถ้าเป็นไปได้ อย่าอยู่ในสถานการณ์นั่นนาน เพราะจะทำให้มีโอกาสพ้นจากอันตรายน้อยลง
|